FREE MEETING: KEY TRENDS AND RISKS IN NFT GAMES– REGISTER

  • CONTACT
  • MARKETCAP
  • BLOG
CIS - Creative Investment Space
  • BOOKMARKS
  • หน้าหลัก
  • ข่าวลงทุนรอบโลก
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • ข้อมูลโบรกเกอร์
    • ทั้งหมด
    • Bitkub
    • eToro
    • FBS
    • GMI EDGE
    • TIFIA
  • บทวิเคราะห์กราฟ
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • กูรูลงทุน
    • ทั้งหมด
    • อับดุลลงทุน ถามมาตอบได้
    • เปโดร พุกกะมาน
  • เกี่ยวกับเรา
Reading: ทำไมบิทคอยน์ถึงสามารถเอาชนะ Hyper Inflation ได้
Share
  • bitcoinBitcoin(BTC)$23,809.00
  • ethereumEthereum(ETH)$1,671.09
  • USDEXUSDEX(USDEX)$1.08
  • tetherTether(USDT)$1.00
  • binancecoinBNB(BNB)$329.86
  • usd-coinUSD Coin(USDC)$1.00
  • rippleXRP(XRP)$0.415396
  • binance-usdBinance USD(BUSD)$1.00
  • cardanoCardano(ADA)$0.405302
  • dogecoinDogecoin(DOGE)$0.094253
CIS - Creative Investment SpaceCIS - Creative Investment Space
Aa
Search
  • หน้าหลัก
  • ข่าวลงทุนรอบโลก
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • ข้อมูลโบรกเกอร์
    • ทั้งหมด
    • Bitkub
    • eToro
    • FBS
    • GMI EDGE
    • TIFIA
  • บทวิเคราะห์กราฟ
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • กูรูลงทุน
    • ทั้งหมด
    • อับดุลลงทุน ถามมาตอบได้
    • เปโดร พุกกะมาน
  • เกี่ยวกับเรา
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CIS - Creative Investment Space > Blog > กูรูลงทุน > ทั้งหมด > ทำไมบิทคอยน์ถึงสามารถเอาชนะ Hyper Inflation ได้
กูรูลงทุนทั้งหมด

ทำไมบิทคอยน์ถึงสามารถเอาชนะ Hyper Inflation ได้

CIS Admin
Last updated: 2022/12/10 at 3:36 PM
CIS Admin Published December 20, 2021
Share

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯได้ประกาศตัวเลข CPI Index หรือดัชนีผู้บริโภคที่คนไทยคุ้นเคยกันในชื่ออัตราเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับ 6.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ก่อนหน้านี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯยังออกมายอมรับว่าเงินเฟ้อได้กลายเป็นปัญหาในระยะยาวไปแล้ว

ในเมื่อเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงขนาดนี้ นักลงทุนต้องมองหาสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงเพื่อจะเอาชนะตัวเลข 6.8% ให้ได้และทองคำกับบิทคอยน์ถูกมองว่าจะเป็นทางเลือกในฐานะการเป็น Safe Haven 

แต่กลับกลายเป็นว่าผลตอบแทนการลงทุนในทองคำในปี 2021 นี้กลับออกมาติดลบในระดับ 5-6% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นในระดับ 5% ส่วนบิทคอยน์แม้จะปรับฐานลงมาแต่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับ 80% ได้

ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมาทองคำมีสถานะเป็นสกุลเงินหนึ่งไปแล้วโดยเสียสถานะของการเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งเป็น Narrative ที่คุ้นเคยกันในอดีต เห็นได้จากเวลาที่ Bond Yield ของสหรัฐฯหรือค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทองคำจะถูกเทขายเสมอ

การที่ FED อาจจะเร่งลดวงเงินการทำคิวอีและเร่งระยะเวลาในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่จะเอาชนะเงินเฟ้อจึงน่าจะมีส่วนกดดันราคาทองคำอยู่ไม่น้อย จากข้อมูลในอดีตยังระบุว่าหลังการถอนคิวอี ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ผลตอบแทนได้แย่ที่สุด

ขณะที่มีทฤษฎีสมคบคิดได้อธิบายว่า Wall Street ได้เข้ามามีอิทธิพลเหนือทองคำนับตั้งแต่มีการเปิดเทรด Gold Futures และ ETF ทองคำ ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วและมีสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่พยายามจะกดราคาทองคำมาโดยตลอด

ทำให้บิทคอยน์กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ถูกมองว่าจะเข้ามาช่วยสร้างผลตอบแทนที่สามารถชนะเงินเฟ้อระดับ Hyper Inflation โดยมีมุมมองจากนักลงทุนและซีอีโอระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Ray Dalio,Paul Tudors Jones,Michael Saylor รวมถึง Jack Dorsey ที่ออกมาเปิดเผยว่าได้ลงทุนในบิทคอยน์เพื่อที่จะเอาชนะเงินเฟ้อ 

ขณะที่บทวิเคราะห์จาก Bloomberg ได้ระบุว่าบิทคอยน์มีโอกาสเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงได้ในระยะยาวโดยมีเนื้อหาสำคัญคือบิทคอยน์ได้ปรับเปลี่ยนจากการเป็นสินทรัพย์ที่เคยมีอัตราเงินเฟ้อ 28% นับตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2011 มาเป็นสินทรัพย์ที่มีอัตราเงินฝืดถึง 99.94% ในปัจจุบัน

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในรูปของเงินดอลลาร์ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับอัตราเงินฝืดของ Bitcoin และตั้งแต่ FED เริ่มอัดฉีดสภาพคล่องด้วยการทำ QE อีกรอบแบบไม่จำกัดวงเงิน งบดุลของ FED พุ่งขึ้นถึงระดับ 220% และเป็นการเพิ่มขึ้นแบบ Expotential Growth ขณะที่ซัพพลายใหม่ของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นมาในอัตราที่น้อยกว่างบดุลของ FED เป็นอย่างมากโดยเพิ่มขึ้นเพียง 160% นับตั้งแต่ปี 2012

พูดง่ายๆคือบิทคอยน์มีสถานะสินทรัพย์ที่มีความเป็นเงินฝืดอยู่ตลอดเวลาจากการที่มีกลไกของการทำ Halving ที่ทำให้ซัพพลายใหม่ที่ออกมาจากการขุดมีปริมาณลดลงทุกๆสี่ปี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สามารถพิมพ์ออกมาได้อย่างไม่จำกัด แม้ว่าจะเริ่มมีการลดวงเงินที่จะทำคิวอีลงแต่ยากที่จะกำจัดสภาพคล่องส่วนเกินที่สร้างออกมาหมดไปได้ในเวลาสั้น

ขณะที่ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศจีนและสหรัฐฯทำให้จีนหยุดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมาตั้งแต่เกิดประเด็นสงครามการค้าทำให้โอกาสที่สหรัฐฯจะผลักภาวะเงินเฟ้อออกนอกประเทศทำได้ยาก ผู้ที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจึงกลายเป็น FED เองเสียส่วนใหญ่

แม้ระยะสั้นบิทคอยน์จะถูกเทขายออกมาต่อเนื่องแต่ในระยะยาวบิทคอยน์ถูกมองว่าสามารถสร้างผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงได้ด้วยกลไกของการทำให้มีภาวะเงินฝืดตลอดเวลาและเมื่อมีคุณค่าในเชิง Scarcitiy ก็จะเกิดดีมานด์เข้ามาผลักดันราคาในที่สุด

You Might Also Like

ตลาดหุ้นฮ่องกง-เวียดนาม ยังน่าลงทุนอยู่อีกหรือไม่?

ตราสารหนี้สีเขียว

ตามติดเทรนด์ EV

ตราสารหนี้ 02

TAGGED: bitcoin, DeFi, ETF, Futures, Gold, SafeHaven

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CIS Admin December 20, 2021
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ใกล้คลอดหนังสือคู่มือนักลงทุนยุคดิจิทัล “วิธีลงทุนในโลกยุคใหม่”
Next Article “เปโดร ณพวีร์ พุกกะมาน” ปลื้ม ผลงานเขียน “วิธีลงทุนในโลกยุคใหม่” ขึ้นแท่นหนังสือ

Follow Us on Socials

We use social media to react to breaking news, update supporters and share information

Facebook Youtube
CIS - Creative Investment Space

CIS : Creative Investment Space ศูนย์รวมข้อมูลการลงทุนเชิงสร้างสรรค์ เพราะการลงทุนเริ่มต้นจากการเรียนรู้

แผนผังเว็บไซต์

หน้าหลัก
โบรกเกอร์
กูรูลงทุน
ข่าวลงทุนรอบโลก
บทวิเคราะห์กราฟ
เกี่ยวกับเรา

ติดตามเรา

Facebook Youtube

คำเตือนความเสี่ยงจากการลงทุนและจุดยืนของ CIS

CIS เป็นเพียงเว็บไซต์ให้ข้อมูลด้านการลงทุน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น ไม่มีการระดมทุน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ใด ๆ และเมื่อสมาชิกที่ศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์นี้นำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนของตนเอง ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การลงทุนต้องใช้เวลาทุ่มเทและศึกษาอย่างถ่องแท้ และมีความเสี่ยง รวมถึงการสูญเสียเงินลงทุนของนักลงทุน ประสิทธิภาพการวิเคราะห์หรือการนำเสนอข้อมูลที่ผ่านมาในตลาดไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต การลงทุนใด ๆ ถือเป็นความเสี่ยงของผู้ลงทุนเอง

Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?