FREE MEETING: KEY TRENDS AND RISKS IN NFT GAMES– REGISTER

  • CONTACT
  • MARKETCAP
  • BLOG
CIS - Creative Investment Space
  • BOOKMARKS
  • หน้าหลัก
  • ข่าวลงทุนรอบโลก
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • ข้อมูลโบรกเกอร์
    • ทั้งหมด
    • Bitkub
    • eToro
    • FBS
    • GMI EDGE
    • TIFIA
  • บทวิเคราะห์กราฟ
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • กูรูลงทุน
    • ทั้งหมด
    • อับดุลลงทุน ถามมาตอบได้
    • เปโดร พุกกะมาน
  • เกี่ยวกับเรา
Reading: โรงแรมอัดแคมเปญดึงลูกค้า เชื่อมาตรการรัฐหนุนผลประกอบการฟื้น
Share
  • bitcoinBitcoin(BTC)$23,809.00
  • ethereumEthereum(ETH)$1,671.09
  • USDEXUSDEX(USDEX)$1.08
  • tetherTether(USDT)$1.00
  • binancecoinBNB(BNB)$329.86
  • usd-coinUSD Coin(USDC)$1.00
  • rippleXRP(XRP)$0.415396
  • binance-usdBinance USD(BUSD)$1.00
  • cardanoCardano(ADA)$0.405302
  • dogecoinDogecoin(DOGE)$0.094253
CIS - Creative Investment SpaceCIS - Creative Investment Space
Aa
Search
  • หน้าหลัก
  • ข่าวลงทุนรอบโลก
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • ข้อมูลโบรกเกอร์
    • ทั้งหมด
    • Bitkub
    • eToro
    • FBS
    • GMI EDGE
    • TIFIA
  • บทวิเคราะห์กราฟ
    • ทั้งหมด
    • ตลาด FOREX
    • ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • ตลาดหุ้นต่างประเทศ
    • ตลาดหุ้นไทย
  • กูรูลงทุน
    • ทั้งหมด
    • อับดุลลงทุน ถามมาตอบได้
    • เปโดร พุกกะมาน
  • เกี่ยวกับเรา
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CIS - Creative Investment Space > Blog > ข่าวลงทุนรอบโลก > ตลาดหุ้นไทย > โรงแรมอัดแคมเปญดึงลูกค้า เชื่อมาตรการรัฐหนุนผลประกอบการฟื้น
ข่าวลงทุนรอบโลกตลาดหุ้นไทยทั้งหมด

โรงแรมอัดแคมเปญดึงลูกค้า เชื่อมาตรการรัฐหนุนผลประกอบการฟื้น

CIS Admin
Last updated: 2022/12/10 at 2:26 PM
CIS Admin Published August 10, 2020
Share

มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวรัฐกระทุ้งผู้ประกอบการโรงแรมแห่อัดแคมเปญ ชูส่วนลด หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการ เตรียม “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 2” รอความชัดเจนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมขยายระยะเวลาเบนเที่ยวเมืองรอง และเที่ยววันธรรมดามากขึ้น ขณะราคาหุ้นโรงแรมใหญ่ขยับเพิ่มต่อเนื่อง โบรกฯ ชี้ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีโรงแรมในเมืองไทยเป็นส่วนใหญ่ เชื่อหนุนผลประกอบการฟื้นตัว CENTEL-ERW-MINT คึก

หลังจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ระบาดหนักและรัฐออกมาตรการต่างๆ มาป้องกัน และเมื่อรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศไทยเป็นศูนย์มานานเกือบจะ 2 เดือนแล้ว ส่งผลให้รัฐบาลเริ่มคลายล็อกตั้งแต่เฟส 1 เรื่อยมาจนถึงเฟส 6 ซึ่งถือว่าทำให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตได้เกือบปกติ กล่าวคือ อนุญาตให้มีการเดินทางภายในประเทศและภายในภูมิภาค รวมถึงเริ่มอนุญาตให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้ พร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการให้ประชาชนได้กลับมามีกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย เพื่อให้ฟันเฟืองทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้

ในที่สุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเงิน 22,400 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยมาตรการแรก คือ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งรัฐคาดหวังว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางตรงให้แก่ผู้ประกอบการกว่า 50,000 ล้านบาท ทางอ้อมต่อระบบเศรษฐกิจ 26,000 ล้านบาท สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมกว่า 7 แสนล้านบาท และจะทำให้รายได้รวมในภาคการท่องเที่ยวไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 1.23 ล้านล้านบาท ระยะเวลาเดือน ก.ค.-ต.ค. โดยรัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมและที่พักให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60% และแจกบัตรกำนัลดิจิทัล (อีวอเชอร์) อีกคืนละ 600 บาท รวมทั้งการจองตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ ซึ่งรัฐจะคืนเงินให้กลับ 40%

นอกจากนี้ยังมี “แพกเกจกำลังใจ” โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืน คนละไม่เกิน 2,000 บาท ขณะที่รัฐก็หาแนวทางช่วยเหลือกลุ่มผู้ให้บริการที่พัก ด้วยการเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ ส่งผลให้โรงแรมทั่วประเทศเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเดือน ก.ค.ผู้ให้บริการโรงแรมจะเปิดให้บริการ 60-70% และจากการปลดล็อกเฟส 6 สายการบินต่างๆ เริ่มปรับแผนการบินเข้าสู่ประเทศไทย โดยสายการบินสัญชาติไทยจะเริ่มทำการบินระหว่างประเทศตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้น และรัฐยังเตรียมออกแพกเกจ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 2 ” ซึ่งจะมีความชัดเจนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมกับพิจารณาขยายระยะเวลาในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งการกระตุ้นเที่ยวเมืองรอง และเที่ยววันธรรมดามากขึ้น อีกทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรมปีละ 40 บาทต่อห้องพัก ที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นการจุดพลุหุ้นกลุ่มโรงแรมโดยตรง ทำให้ราคาหุ้นตัวบิ๊กในกลุ่มนี้เขียวถ้วนหน้า 

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. หุ้นกลุ่มนี้ยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง โดย MINT คึกคักตลอดวันเมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 18.16 บาท เพิ่มขึ้น 70 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 1,490.77 ล้านบาท CENTEL ปิดที่ 23.40 บาท เพิ่มขึ้น 60 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 121.97 ล้านบาท AWC ปิดที่ 4 บาท เพิ่มขึ้น 16 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 238.95 ล้านบาท ERW ปิดที่ 3.36 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 28.89 ล้านบาท และ DTC ปิดที่ 6.95 บาท ลดลง 5 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 416.35 ล้านบาท แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้เกือบทุกบริษัทประสบภาวะขาดทุนเพราะรับพิษโควิด-19 ที่ระบาดหนัก ไม่มีการเดินทาง ไม่มีกิจกรรมนอกสถานที่เหมือนที่เคย และเมื่อรัฐปลดล็อกพร้อมกระตุ้นให้ประชาชนออกมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ผู้ประกอบการโรงแรมจึงเตรียมรับมือและอัดโปรโมชันต่างๆ เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวหรือลูกค้าเข้าใช้บริการ อันหมายถึงรายได้ที่จะเข้ามา ทำให้กิจการฟื้น ผลประกอบการเติบโต โดยเฉพาะช่วงปลายปีถือเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว

MINT ให้ส่วนลดพร้อมสิทธิประโยชน์ในเครือทั่วไทย

มร.โทมัส ไมเออร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ (เอเชีย) ของกลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ ในเครือ MINT เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีโรงแรมจำนวนทั้งหมดมากกว่า 535 แห่ง ใน 56 ประเทศ โดยโรงแรมอนันตรา และโรงแรมอวานี ซึ่งเป็น 2 แบรนด์หลักของกลุ่มในไทย ได้ทยอยเปิดให้บริการหลังจากที่รัฐบาลคลายล็อกดาวน์ทั่วประเทศ พร้อมยกระดับมาตรฐานทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของโรงแรมในเครือเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ทั้งพนักงาน และผู้ใช้บริการ

“นอกจากส่วนลดที่รัฐมอบให้แล้ว ทางโรงแรมยังจัดโปรโมชัน พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดโปรโมชันและสิทธิพิเศษของแต่ละโรงแรมได้ทางเว็บไซต์ โดยสามารถสำรองห้องพักและใช้สิทธิ์ตามโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม-31 ตุลาคมนี้”

ทั้งนี้ กลุ่มโรงแรมในเครือทยอยเปิดโรงแรมทั่วไทย พร้อมดึงเทคโนโลยี เสริมมาตรฐานทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุดในการให้บริการ โดยเปิดตัวมาตรการ “พักอย่างสบายใจ” ณ เครือโรงแรมอนันตรา และมาตรการ “อวานี ชิลด์” ณ เครือโรงแรมอวานี ซึ่งเป็น 2 แบรนด์โรงแรมหลักของกลุ่มในไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ทั้งพนักงานและผู้ใช้บริการ พร้อมขานรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เปิดรับสิทธิ์ส่วนลดค่าที่พักสูงสุดถึง 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน และบัตรกำนัล เสริมด้วยโปรโมชันพิเศษสำหรับคนไทยและผู้ที่พำนักในประเทศไทย ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ณ โรงแรมในเครือทั่วไทย

CENTEL ชู 3 แคมเปญดึงนักท่องเที่ยว 

กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทาราได้ร่วมสนับสนุนนโนบายรัฐด้วยการส่งโรงแรมหลายแห่งเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” พร้อมทั้งจัดโปรโมชันราคาห้องพักสุดพิเศษทั่วไทยตลอดระยะเวลา 4 เดือนของโครงการฯ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ตุลาคม 2563 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในไทย โดยนอกเหนือจากรัฐมอบให้แล้วทางโรงแรมเซ็นทารายังได้จัดข้อเสนอสุดพิเศษอีกถึง 3 แคมเปญ เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น โปรโมชัน “Stronger Together” ห้องพักราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 960 บาทต่อคืน และพิเศษยิ่งกว่าสำหรับการเข้าพักตั้งแต่ 4 คืนขึ้นไป จะได้รับฟรีแพกเกจอาหารเย็นตลอดการเข้าพัก อีกทั้งโปรโมชัน “Private Villa Escape” ที่เอาใจคนรักการท่องเที่ยวแบบส่วนตัว ด้วยส่วนลดสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับห้องพักประเภทพูลวิลลาที่มีสระน้ำส่วนตัวโดยเฉพาะ ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,160 บาทต่อคืน พร้อมอาหารเช้าและอาหารเย็น และโปรโมชัน “Stay Happy & Healthy” แพกเกจห้องพักราคาพิเศษที่มาพร้อมทางเลือกเพื่อดูแลสุขภาพมากมาย อย่างคอร์ส AcuRelax ทรีตเมนต์ 60 นาที สำหรับ 2 ท่าน และอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องพักเพื่อการออกกำลังกายแบบส่วนตัว

DTC อัดแคมเปญ ราคาพิเศษ เน้นปลอดภัย

กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC ได้เข้าร่วมแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยได้จัดโปรโมชันเพื่อตอบรับแคมเปญดังกล่าวด้วยห้องพักราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 999 บาทสุทธิต่อคืน สำหรับ 2 ท่าน รวมถึงพร้อมมอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกมากมายในช่วงวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) เมื่อจองผ่าน www.dusit.com เช่น อัปเกรดห้องพักฟรี, ส่วนลดสปา 40% และส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม 20% ซึ่งเปิดให้จองแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 (ตามเงื่อนไขของโรงแรม)

ทั้งนี้ DTC ได้เปิดให้บริการโรงแรมในประเทศไทยที่ดุสิตธานีเป็นเจ้าของเอง 3 แห่ง ตั้งแต่เฟสแรกเดือน มิ.ย. 63 คือ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน โรงแรมดุสิตธานี พัทยา และโรงแรมดุสิตธานี สวีท ราชดำริ กรุงเทพฯ ส่วนโรงแรมที่กลุ่มดุสิตธานีรับบริหารหรือเป็นแฟรนไชส์ทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และโรงแรมที่เหลือคือ โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่าภูเก็ต โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส เชียงใหม่ และโรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ ซึ่งมีฐานลูกค้าหลักเป็นนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและความชัดเจนอีกครั้ง โดยเฉพาะการคลายล็อกดาวน์ในระยะต่อไป ข้อจำกัดในการเดินทาง รวมถึงสถานการณ์ของ Travel Bubble

ERW เริ่มฟื้นตัว ทยอยเปิดให้บริการ

นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW กล่าวว่า ในระยะแรกของการกลับมาเปิดให้บริการของกลุ่มโรงแรมฮ็อป อินน์ เมื่อเดือนพฤษภาคม และหลังจากรัฐผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ก็ทยอยเปิดให้บริการโรงแรมเมอร์เคียว และไอบิส ในพัทยา และโรงแรม ไอบิส หัวหิน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และเดือนกรกฎาคมก็เริ่มเปิดให้บริการโรงแรมในระดับห้าดาว อย่าง แกรนด์ ไฮแอท และ เจดับบลิว แมริออท ในกรุงเทพฯ ตลอดจนโรงแรมขนาดกลาง ฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ตามด้วยกลุ่มโรงแรมราคาประหยัด ไอบิส สาทร และ ไอบิส ริเวอร์ไซด์ และเดือนสิงหาคม จะเปิดให้บริการโรงแรมครบทุกแห่งในประเทศไทย รวมทั้งโรงแรมฮ็อป อินน์ ที่อยู่ในฟิลิปปินส์ด้วย

ระยะแรกจะเน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นหลัก และให้ความสำคัญต่อตลาดการท่องเที่ยวในประเทศและทำการตลาดผ่านช่องทางต่างๆ อย่างเข้มข้น รวมถึงสนับสนุนแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ เพื่อดึงดูดให้คนไทยออกมาใช้จ่ายด้านการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ อันจะส่งผลถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ และคาดว่าการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศระยะทางสั้นจึงจะเริ่มฟื้นตัว ในขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศระยะไกลเช่น ยุโรป และสหรัฐฯ จะตามมาภายหลัง ขึ้นอยู่กับมาตรการจำกัดการเดินทางของแต่ละประเทศ

AWC มั่นใจมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้น 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เผยว่า ผลงานครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวหลังรัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจโรงแรมและศูนย์การค้า โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่จะกลับมาฟื้นขึ้นจากมาตรการกระตุ้นให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศ และโรงแรมที่อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวอย่าง หัวหิน เริ่มเห็นอัตราการเข้าพัก (OCC) กลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 90-100% และวันธรรมดากลับมาอยู่ที่ 50% หลังจากลดลงไปอย่างในช่วงไตรมาสแรกและหายไปในช่วงล็อกดาวน์ ซึ่งบริษัทคาดว่าโรงแรมในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ จะเริ่มฟื้นตัว ส่วนศูนย์การค้าทั้ง 9 แห่งเริ่มกลับมาเปิดให้บริการในช่วงแรกของการผ่อนคลายล็อกดาวน์ จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการยังมีไม่มาก แต่เริ่มกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย.เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะศูนย์การค้า เกตเวย์ เอกมัย ที่จำนวนผู้ใช้บริการกลับมาเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับช่วงปกติที่ประมาณกว่าหมื่นคนต่อวัน ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังคงบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง ซึ่งช่วงที่ล็อกดาวน์ได้ปิดโรงแรมและศูนย์การค้า บริษัทลดค่าใช้จ่ายลงค่อนข้างมากเฉลี่ย 80%

ทั้งนี้ AWC เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุด 50% จากราคาห้องพักปกติ พร้อมด้วยส่วนลดพิเศษสูงสุด 20% สำหรับห้องอาหาร และสปาในโรงแรม ตามเงื่อนไขที่กำหนดเมื่อเข้าพัก ซึ่งแต่ละโรงแรมในเครือให้ส่วนลดแตกต่างกันไป นักท่องเที่ยวจองได้ถึง 31 ตุลาคม 2563

หากสนใจเปิดพอร์ตตลาดหุ้นไทย

สำหรับนักลงทุนที่สนใจเปิดพอร์ตตลาดหุ้นไทยกับ KTBST ขอคำปรึกษาได้ ที่นี่ เพราะ KTBST มีค่าธรรมเนียมต่ำ เป็น “ สถาบันการเงิน ” ในประเทศไทยที่มีความโดดเด่นในการให้บริการลูกค้า นอกจากนั้นยังเป็นตัวช่วยให้ผู้ถือหุ้น “เติบโตอย่างยั่งยืน” และมีส่วนช่วยสังคมในการ “ พัฒนาตลาดทุน ”

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9630000080262

#CISThai

Line Official: https://lin.ee/jO65rNq

Website: https://www.creativeinvestment.space/

FB Fanpage: https://www.facebook.com/CreativeInvestmentSpace

You Might Also Like

ทิศทางบิทคอยน์จากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ

จับตาประชุม FED พลิกเกมส์

หุ้นเทคโนโลยีสัญชาติจีนผงาดจับตาว่าที่ไอพีโอ ‘Ant Group’ ดึงเงินลงทุนไหลเข้าจีน

หุ้นเทคโนโลยีจีนขอท้าทายซิลิคอนวัลเลย์

TAGGED: AWC, CENTRAL, DTC, ERW, MINT, หุ้นโรงแรม

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CIS Admin August 10, 2020
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article เฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์ ลบวิดีโอทรัมป์ อ้างมั่ว เด็กไม่ได้รับผลจากโควิด
Next Article AUD ถอยร่นจากจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือนก่อนผลการประชุมจาก RBA จะออก

Follow Us on Socials

We use social media to react to breaking news, update supporters and share information

Facebook Youtube
CIS - Creative Investment Space

CIS : Creative Investment Space ศูนย์รวมข้อมูลการลงทุนเชิงสร้างสรรค์ เพราะการลงทุนเริ่มต้นจากการเรียนรู้

แผนผังเว็บไซต์

หน้าหลัก
โบรกเกอร์
กูรูลงทุน
ข่าวลงทุนรอบโลก
บทวิเคราะห์กราฟ
เกี่ยวกับเรา

ติดตามเรา

Facebook Youtube

คำเตือนความเสี่ยงจากการลงทุนและจุดยืนของ CIS

CIS เป็นเพียงเว็บไซต์ให้ข้อมูลด้านการลงทุน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น ไม่มีการระดมทุน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ใด ๆ และเมื่อสมาชิกที่ศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์นี้นำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนของตนเอง ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การลงทุนต้องใช้เวลาทุ่มเทและศึกษาอย่างถ่องแท้ และมีความเสี่ยง รวมถึงการสูญเสียเงินลงทุนของนักลงทุน ประสิทธิภาพการวิเคราะห์หรือการนำเสนอข้อมูลที่ผ่านมาในตลาดไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต การลงทุนใด ๆ ถือเป็นความเสี่ยงของผู้ลงทุนเอง

Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?